ลูกสุนัขกี่เดือนถึงจะให้คนอื่นได้

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เขียนโดย VP 0 ความคิดเห็น
ลูกสุนัขกี่เดือนถึงจะให้คนอื่นได้ เราว่าน่าจะ 45 วันขึ้นไป หรือประมาณ 1เดือนครึ่ง หรือ 6 สัปดาห์

รายละเอียดการฉีดวัคซีนก็ตามนี้

6 สัปดาห์ วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดสุนัข หรือ ลำไส้อักเสบติดต่อ (เฉพาะในกรณีที่สัตว์แพทย์พิจารณาแล้วว่า ลูกสุนัขมีความเสี่ยงสูงต่อโรคดังกล่าว)

8 สัปดาห์ วัคซีนรวม ป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และลำไส้อักเสบติดต่อ (อาจรวมกับ ตับอักเสบ และ/หรือ เลปโตสไปโรซีส และ/หรือ หวัด และ หลอดลมอักเสบติดต่อ)

10 สัปดาห์ วัคซีนรวม ป้องกันโรคไข้หัดสุนัข และลำไส้อักเสบติดต่อ (อาจรวมกับ ตับอักเสบ และ/หรือ เลปโตสไปโรซีส และ/หรือ หวัด และ หลอดลมอักเสบติดต่อ)

12 สัปดาห์ วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (สำหรับลูกสุนัขที่มีความเสี่ยงสูง อาจพิจารณาทำวัคซีนก่อน 12 สัปดาห์ และให้ทำวัคซีนซ้ำเมื่อลูกสุนัขอายุได้ 12 สัปดาห์)

16 สัปดาห์ วัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบติดต่อ

6 เดือน วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

ทุกๆ ปี ฉีดวัคซีนกระตุ้นทุกโรค ทุกปี
เสนอโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาโปรแกรมวัคซีนสุนัขสมาคมสัตวแพทย์ผู้ประกอบการบำบัดโรคสัตว์แห่งประเทศไทย
ยาถ่ายพยาธิ (ได้ทั้งยาน้ำ และยาเม็ด) ครั้งแรกเมื่ออายุ 4 สัปดาห์ ให้ซ้ำทุกเดือนจนอายุ 6 เดือนและหลังจากนั้น ให้อีกทุกๆ 3 - 6 เดือน(ขึ้นอยู่กับความเสียง อยู่ในแหล่งเสี่ยง) อย่างสม่ำเสมอ
ยาป้องกันหนอนพยาธิหัวใจ และยาป้องกันเห็บ-หมัดควรให้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เดือนละ 1 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่ออายุ 3 เดือน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงที่ลูกสุนัขมีระดับภูมิคุ้มกันจากแม่ลดต่ำลงจนระดับภูมิคุ้มกันเดิมในร่างกาย ไม่สามารถไปรบกวนการทำงานของวัคซีนภูมิคุ้มกันจากแม่จะป้องกันโรคได้เพียงประมาณ 6-8 สัปดาห์ หลังจากนั้นระดับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดต่ำลง ซึ่งลูกสุนัขอาจได้รับเชื้อโรค และป่วยเป็นโรคได้ แต่ถ้าฉีดวัคซีนเร็วเกินไประดับภูมิคุ้มกันที่ยังมีอยู่ในลูกสุนัขจะต้านกับ เชื้อในวัคซีนและไม่เกิดภูมิคุ้มกันขึ้น เราจึงควรให้ลูกสุนัขได้รับการฉีดวัคซีนเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ และสามารถฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าได้เมื่อลูกสุนัขอายุ 3 เดือนขึ้นไป
ป้ายกำกับ:

10 ร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ

วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เขียนโดย VP 0 ความคิดเห็น
1. เรือนรับรอง (Ruen Rub Rong) ร้านชมวิวกรุงเทพฯ ยามราตรี สไตล์ชิล ๆ บนยอดตึก รับลมหนาวจิบไวน์ กับอาหารมื้ออร่อย ราคาไม่แพง บรรยากาศโรแมนติกดี เหมาะไปกับคนรักในช่วงอากาศเย็น ๆ แบบนี้
2. อินดี้ทรีส์บาร์ (Indy Trees Bar) "อินดี้ทรีส์บาร์" กับบรรยากาศที่เหมาะสำหรับพาร์ตี้ในหมู่เพื่อนฝูง รวมก๊วนมาสังสรรค์เฮฮาในคืนส่งท้ายปีเก่า ที่นี่มีแบนด์เล่นสดดนตรีสไตล์ยุค 80's หรือใครอยากจะร้องคาราโอเกะ ที่นี่ก็มีห้องไว้คอยบริการนะครับ
3. ซัมธิง สวีท (Something Sweet) ช่วงปีใหม่ อากาศหนาว ๆ แบบนี้ อะไรจะเหมาะไปกว่าร้านเค้กน่ารัก ๆ ใจกลางเมือง กินเค้กเพิ่มแคลอรี่ให้ร่างกายเล็กน้อย เพื่อสร้างความอบอุ่น (คงไม่เป็นไร นาน ๆ ที) พร้อมจิบชาร้อน ๆ หรือจะซื้อไปเป็นของฝากปีใหม่ให้ญาติมิตรก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี
4. รีเฟลคชั่น (Reflections) ปีใหม่ทั้งที น่าจะทำตัวเองให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง ว่าแล้วก็น่าจะชวนกลุ่มเพื่อนมาสนุกสนานกันที่ "รีเฟลคชั่น" ย่านซอยอารีย์ สีสันบาดตาบาดใจ สดใสสีชมพูของที่นี่ อาจทำให้ปีใหม่ของคุณกระปรี้กระเปร่า กลายเป็นคุณคนใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง
5. ฮิปปี้ เดอ บาร์ (Hippie de Bar) ฝรั่ง! ฝรั่ง! ฝรั่ง! ... ไปที่ไหนก็มีแต่ฝาหรั่ง อ๊ะ แน่นอน เพราะอันดับที่ 6 ของเราอยู่ที่ถนนข้าวสารนี่นา ไม่ใช่ที่ไหน "ฮิปปี้ เดอ บาร์" ร้านแนวเร็กเก้นั่นเอง ถ้าลองมา Countdown ที่นี่ดูบ้างก็น่าจะได้บรรยากาศที่คึกคักสนุกสนานไม่น้อยเลยนะครับ
6. บ้านน้ำเคียงดิน (ฺBaan Nam Kieng Din) ผ่านไปครึ่งทางแล้วนะครับ เหลืออีก 5 อันดับ งั้นเรามาต่อกันเลยที่ร้าน ... แหม อากาศเย็นสบายช่วงปีใหม่แบบนี้ เราเลยของแนะนำร้านชานเมืองกันบ้าง อากาศคงดีสุด ๆ กับร้านแนวคันทรี "บ้านน้ำเคียงดิน" ไงล่ะครับ
7. มะยมปุรี (Mayompuri) ร้านนี้เหมาะสำหรับแฟน ๆ วีเลิฟฯ ผู้ที่รักในความหรูหรา "มะยมปุรี" น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ดี กับร้านอาหารสไตล์รีสอร์ท ที่ได้กลิ่นอายแบบทรอปิคอล มากับคู่รักก็น่าจะเป็นค่ำคืนที่โรแมนติกและแสนจะประทับใจ
8. ระเบียง-เล (Rabiang-Lay) อยู่กรุังเทพฯ มาหลายอันดับแล้ว ไปต่างจังหวัดบ้างนะครับ กับ ร้าน "ระเบียง-เล" ร้านอาหารริมทะเลที่ วีรันดา รีสอร์ท จะไปนอนพักที่นี่เลยกขอบอกว่า็ hip & cool มาก ๆ ... พอพลบค่ำก็ออกมาดินเนอร์ท่ามกลางแสงจันทร์ คลื่นทะเล พร้อมแสงเทียนในบรรยากาศแสนโรแมนติก
9. บุรีธารา (Buri Tara) ยอดตึกก็ไปแล้ว ทะเลก็ไปแล้ว ... เลยขอเป็นร้าินริมแม่น้ำกันบ้างนะครับ กับ "บุรีธารา" ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาบรรยากาศแสนจะโรแมนติก ถ้าไปกับคนรัก รับรองสวีทหวานแน่นอนครับ
10. คาเฟ่ จี (Cafe G) คาเฟ่-จี โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ตรงแยกราชประสงค์ ย่านที่มีบรรยากาศการ Countdown ที่คึกคักที่สุดของกรุงเทพฯ หรือของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ ดินเนอร์ที่ คาเฟ่-จี เสร็จ แล้วออกมาดูผู้คนบนท้องถนน แสงไฟประดับประดา พลุและดอกไม่ไฟ นี่แหละอินสุด ๆ แล้ว

ขอข้อมูลมาจากคุณ nidnoy: ) จากบอร์ด LPN Place Phahol-Saphankwai ขอบคุณนะครับ
ป้ายกำกับ:

อุปกรณ์ทำขนมไทย

วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2552 เขียนโดย VP 0 ความคิดเห็น
  • พิมพ์ทองม้วน ลักษณะเป็นแผ่นเหล็กกลมหรือสี่เหลี่ยม ประกบติดกันเป็นคู่มีด้ามยาวสำหรับถือเวลาผิงไฟ ด้านในของพิมพ์จะมีลวดลายต่าง ๆ กัน
    วิธีการใช้ ควรปิ้งหรือผิงพิมพ์ให้ร้อนเสียก่อน ทาด้วยน้ำมันพืชหรือน้ำมัน โดยใช้ลูกประคบซึ่งทำจากผ้าสะอาดห่อกากมะพร้าว ชุบน้ำมันเช็ดทาพิมพ์ เมื่อพิมพ์ร้อนจัดตักแป้ง 1 ช้อน ใส่ลงตรงกลางพิมพ์ แผ่นที่ประกบด้านล่าง กดพิมพ์ประกบกันให้สนิท แป้งที่ใส่จะไหลเป็นแผ่นบางไปทั่วพิมพ์ ปิ้งไฟทันทีจนกระทั่งสุกเหลืองดี ใช้มีดปลายแหลมแซะออกม้วนหรือพับ ถ้าม้วนก็เรียกว่าทองม้วน ถ้าพับก็เรียกว่าทองพับ ส่วนเกล็ดกระโห้ก็เป็นลักษณะเดียวกัน แต่วิธีการทำและการเลือกพิมพ์จะแตกต่างกัน เกล็ดกระโห้จะใช้พิมพ์ไม่มีลาย แผ่นจะเล็กกว่า เพื่อให้เหมือนลักษณะเกล็ดปลาจริงๆ

  • พิมพ์ขนมไข่ ลักษณะ พิมพ์ขนมไข่ส่วนใหญ่จะทำด้วยทองเหลือง ประกอบไปด้วย ช่องสำหรับหยอดแป้งประมาณ 12 ช่องต่อ 1 พิมพ์ แต่ละช่องอาจจะประกอบด้วย รูปดอกไม้ กลม รี หรือรูปเหลี่ยม พิมพ์ขนมไข่จะมีฝา ซึ่งทำด้วยทองเหลืองหนา สำหรับใส่ถ่านซึ่งจะให้ความร้อนด้านบนของขนม มีห่วงที่ฝา ซึ่งจะใช้เหล็กงอยกฝาขึ้น เวลาที่จะหยอดขนมหรือแซะขนมออกจากพิมพ์
ป้ายกำกับ: